อังศนา

อังศนา

ผู้เยี่ยมชม

  คดียักยอกทรัพย์ (1917 อ่าน)

2 ส.ค. 2557 14:45

สวัสดีคะ ดิฉันมีเรื่องจะปรึกษา คุณพ่อดิฉันได้ยืมเงินคนรู้จักเป็นจำนวนเงิน700,000บาท และได้โอนเข้าบัญชีธนาคารของดิฉัน ตั้งแต่เดือนต.ค.56 และได้ชำระหนี้ไปบ้างแล้ว แต่ทีนี้เมื่อก.พ.57 ธุรกิจมีปัญหา จึงไม่สามารถผ่อนได้ได้เหมือนก่อน จึงได้บอกกล่าวเจ้าหนี้ แต่เจ้าหนี้ไม่รับฟัง จึงได้ทำการแจ้งความจับดินฉันและพ่อ แต่ดิฉัน ไม่เคยได้รับหมายศาลและไม่ได้ทราบรายละเอียดของเงินจำนวนนี้จากคุณพ่อเลย อยู่ๆมีตำรวจมาจับถึงที่ทำงาน แต่ดิฉันได้ออกมาจากที่ทำงานก่อนแล้วจังไม่ถูกจับ เพื่อนร่วมงานจึงได้บอกรายละเอียดว่าดิฉันถูกข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ ดิฉันและพ่อควรทำเช่นไรดีคะ จะประณีประนอมอย่างไร ดิฉันไม่รู้กฎหมายเลย ฝากรบกวนช่วยเหลือทีนะคะ ขอบคุณคะ

อังศนา

อังศนา

ผู้เยี่ยมชม

ทนายภูวรินทร์  081-9250-144

ทนายภูวรินทร์ 081-9250-144

ผู้ดูแล

13 ส.ค. 2557 15:12 #1

            การกู้ยืมเงิน และมีการผ่อนชำระหนี้ไปบ้างแล้ว เป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่งเท่านั้น เพราะผู้กู้มีเจตนากู้เงินและตกลงผ่อนชำระกันจริง ๆ ไม่ใช่การหลอกลวงเพื่อให้ได้เงิน หรือยักยอกเงิน ส่วนการรับเงินกู้นั้น จะเป็นบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้กู้ก็ได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ดังนั้น เมื่อเจ้าหนี้ใช้วิธีร่วมมือกับตำรวจดำเนินคดีอาญาข้อหาฉ้อโกง ก็ต้องไปพิสูจน์ความผิดกันที่ชั้นศาล โดยเตรียมหลักฐานการผ่อนชำระหนี้สินไปประกอบด้วยเพื่อแสดงให้เห็นเจตนากู้เงินกันจริง ๆ และผ่อนชำระกันจริง ๆ ครับ
            คงแนะนำได้เพียงเท่านี้ เพราะขั้นตอนการดำเนินคดี ผู้ต้องหา (กรณีถูกกล่าวหาที่ สน.) หรือจำเลย (กรณีฟ้องศาลแล้ว) มีสิทธิขอให้หน่วยงานรัฐจัดหาทนายความขอแรงเพื่อช่วยเหลือในการต่อสู้คดีได้อยู่แล้วครับ

ทนายภูวรินทร์  081-9250-144

ทนายภูวรินทร์ 081-9250-144

ผู้ดูแล

ตอบกระทู้
CAPTCHA Image
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้