อาจารย์ชายชาวต่างชาติถูกนักเรียนร้องเรียนว่า อาจารย์มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมด้านเพศกับนักเรียนหญิง(sexual harassment) ทำให้อาจารย์ถูกพักการสอนเป็นเวลา 1 อาทิตย์ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลไม่ได้แจ้งอาจารย์ว่า คู่กรณีเป็นใคร ชื่อ/นามสกุลอะไร ทำให้อาจารย์ไม่สามารถอธิบายข้อเท็จจริงได้ แต่อาจารย์ได้แจ้งทางวาจากับคณะกรรมการว่า ทางโรงเรียนควรตรวจสอบข้อมูลและพิสูจน์พยานทั้งที่เป็นเอกสาร บุคคลหรือจากกล้องวงจรปิด

แต่ทางโรงเรียนไม่ได้อธิบายรายละเอียดว่า ระบบขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ของโรงเรียนเป็นอย่างไร ทำให้อาจารย์เห็นว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบบการตรวจสอบของโรงเรียนและกฎหมายคุ้มครองแรงานในประเทศไทย ทั้งนี้ หัวหน้าของอาจารย์และตัวอาจารย์มองว่า เป็นการกลั่นแกล้งจากนักเรียนที่มีอิทธิพลต่อโรงเรียน (เป็นโรงเรียนนานาชาติ ทางฐานะทางการเงินของนักเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีมาก)

เบื้องต้นได้แจ้งให้อาจารย์ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ แต่เนื่องจากไม่สามารถระบุตัวตนของคู่กรณีได้ ทำให้อาจารย์คิดว่า ตำรวจคงไม่ดำเนินการให้

ขอคำแนะนำว่า อาจารย์ควรทำอย่างไรคะ
และมีอีก 3 คำถาม ตามรายละเอียดด้านล่างค่ะ

1.ทางอาจารย์สามารถแต่งตั้งทนาย เพื่อไปทำการสอบสวนร่วมกับทางคณะกรรมการของโรงเรียนได้หรือไม่
2.ทางโรงเรียนมีสิทธิยกเลิกสัญญาว่าจ้างที่จะครบกำหนดเดือนสิงหาคม ปีนี้ได้หรือไม่ และต้องจ่ายค่าชดเชย
แรงงานอย่างไร (อาจารย์สอนมา 2 ปีกว่า แต่เป็นการเซ็นสัญญาแบบปีต่อปีค่ะ)
3.ถ้าผลการตรวจสอบพิสูจน์ได้ว่า อาจารย์ไม่ได้ทำความผิด ทางโรงเรียนควรทำหนังสือแจ้งอาจารย์เป็นลาย
ลักษณ์หรือไม่ เพื่อใช้ป้องกันคำครหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากมีผลต่อชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ
ของอาจารย์ค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

           ระบบการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการร้องเรียนพฤติกรรมทางเพศของหน่วยงานทั่วไป  จะเป็นไปในลักษณะนี้คือ คณะกรรมการสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นก่อนว่ามีมูลความผิดหรือไม่ หากมีมูลความผิดก็ต้องดูข้อเท็จจริงเป็นกรณีไปเพื่อดำเนินการทางกฎหมายตามข้อหาที่กฎหมายบัญญัติ หรือหากไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายแต่ผิดจริยธรรมก็ต้องให้ผู้ถูกร้องเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงประกอบการตัดสิน
          ปกติการสอบสวนเรื่องแบบนี้จะไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผู้ร้องเรียน เพราะผู้ร้องเรียนอาจได้รับความเสียหาย อับอาย หรืออาจมีผลกระทบกระเทือนภายหลังได้ ข้อมูลนี้จะเปิดเผยในกรณีเป็นข่าว หรือไม่สามารถปกปิดได้ และกรณีมีการต่อสู้คดีกันในชั้นเจ้าพนักงานตำรวจ หรือชั้นศาล  
           ส่วนคำถามอื่น ๆ ขอตอบดังนี้
           1. การสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นเรื่องภายในของหน่วยงานนั้น คงไม่สามารถแต่งตั้งทนายความเข้าไปร่วมตรวจสอบได้ ยกเว้นได้รับอนุญาตจากหน่วยงานนั้น ๆ โดยตรง
            2. การจะยกเลิกสัญญาจ้างโดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยจะต้องมีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่ามีพยานหลักฐานแสดงว่าผู้ถูกร้องเรียนกระทำผิดจริง หรือมีการแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากไม่มีพยานหลักฐาน หรือแค่ถูกร้องเรียนก็เลิกจ้าง ทางโรงเรียนก็ต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน โดยเอาเวลาที่ทำงานทั้งหมดทุกสัญญาจ้างมานับรวมกันเพื่อรับสิทธิค่าชดเชย ทางโรงเรียนหรือนายจ้างไม่สามารถอ้างว่าทำสัญญาจ้างปีต่อปีเพื่อยกเว้นไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย เพราะขัดกับกฎหมายแรงงาน
           3. ผลการตรวจสอบเป็นหนังสือ หรือหนังสือแจ้งผลการสอบสวน คงต้องไปถามหน่วยงานที่ตรวจสอบเองครับ เพราะเป็นเรื่องภายใน ไม่มีใครตอบแทนได้