ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

6 ส.ค. 2556 17:02 #42


ตอบคำถามแม่พลอย
             ให้ยื่นคำร้องที่ศาลซึ่งเคยตัดสินคดีไว้เพื่อเรียกให้สามีมาสอบถามและให้ชำระเงินค่าเลี้ยงดูบุตร หากสามีไม่ปฏิบัติตามก็ขอให้ศาลออกหมายจับหรือขังตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๑๖๒ ซึ่งบัญญัติว่า “ในคดีที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูหรือค่าเลี้ยงชีพถ้าศาลเห็นสมควรจะสั่งให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษานำเงินมาวางศาลตามเงื่อนไข หรือระยะเวลาที่ศาลกำหนด ในกรณีลูกหนี้ตามคำพิพากษามีรายได้ประจำ ศาลอาจสั่งให้อายัดเงินเท่าจำนวนที่จะชำระเป็นค่าอุปการะเลี้ยงดู หรือค่าเลี้ยงชีพเป็นรายเดือน แล้วให้ผู้มีหน้าที่จ่ายเงินดังกล่าวนำเงินมาวางศาลแทนลูกหนี้ตามคำพิพากษา
            เมื่อความปรากฏต่อศาลเองหรือผู้มีสิทธิได้รับค่าอุปการะเลี้ยงดูหรือค่าเลี้ยงชีพร้องต่อศาลว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลเรียกตัวมาสอบถาม หากปรากฏเป็นความจริงให้ศาลว่ากล่าวตักเตือนให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาล
                ในกรณีลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ปฏิบัติตามคำตักเตือนของศาลตามวรรคสองโดยไม่มีเหตุอันสมควร ศาลมีอำนาจออกหมายจับและสั่งให้กักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษาไว้จนกว่าลูกหนี้จะนำเงินค่าอุปการะเลี้ยงดูหรือค่าเลี้ยงชีพมาชำระหรือวางศาล แต่ห้ามมิให้กักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษาแต่ละครั้งเกินกว่าสิบห้าวันนับแต่วันจับหรือกักขัง แล้วแต่กรณี เว้นแต่จะได้รับการปล่อยชั่วคราว
 

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

6 ส.ค. 2556 17:07 #43


ตอบคำถามคุณหญิงเศร้า
                เมื่อหย่ากันกฎหมายให้แบ่งสินสมรสคนละครึ่ง แต่สินส่วนตัวไม่ต้องแบ่งของใครของมัน สำหรับค่าเลี้ยงดูบุตรนั้นกฎหมายกำหนดให้บิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามสมควรแก่บุตรในระหว่างที่เป็นผู้เยาว์เท่านั้น คือบุตรอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ แต่หากเกิน 20 ปีไปแล้ว กฎหมายบัญญัติพิเศษให้บิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว แต่เฉพาะทุพพลภาพและหาเลี้ยงตนเองมิได้ หากไม่เข้าเงื่อนไขดังกล่าวก็ไม่ต้องอุปการะเลี้ยงดู อันนี้เป็นเพียงหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ความจริงเป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบและสามัญสำนึกของแต่ละบุคคล
 
                 

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

6 ส.ค. 2556 17:22 #44


หลายคนสอบถามเบอร์โทรศัพท์ผม ซึ่งปกติจะติดไว้ที่หน้าเว็บ หน้าแรกเลย แต่อาจหาไม่พบ ดังนั้น ผมแนะนำให้พิมพ์คำว่า "ทนายภูวรินทร์" ที่กูเกิ้ลเพื่อค้นหา ก็จะพบหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อครับ

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

ต้อง

ต้อง

ผู้เยี่ยมชม

10 ส.ค. 2556 03:35 #45

สอบถาม
จะฟ้องหย่าโดยภรรยามีชู้หลักฐานการสนทนาทางเฟส และบันทึกเสียงการสนทนาแอบอัดการพูดคุย
แค่นี้พอฟ้องได้หรือไม่
จะขอบันทึกการสนทนาทโทรศัพท์มาเป็นหลักฐานได้หรือไม่. มีขั้นตอนอย่างไร
ถ้าเป็นข้าราชการแค่นี้ผิดวินัยร้ายแรงหรือเปล่า

ต้อง

ต้อง

ผู้เยี่ยมชม

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

19 ส.ค. 2556 12:06 #46


ตอบคำถามคุณต้อง
         ก่อนอื่นต้องขออภัยที่ตอบคำถามล่าช้า เนื่องจากอาทิตย์ที่ผ่านมาติดภารกิจที่ต่างจังหวัดครับ
         ตามคำถามการอ้างเหตุฟ้องหย่าเรื่องมีชู้นั้น กฎหมายต้องการข้ออ้างที่เป็นพฤติกรรมการกระทำเป็นสาระสำคัญ เช่น มีการยกย่อง หรือมีความสัมพันธ์ทางเพศกันจริง ๆ ไม่ใช่แค่เพียงการสนทนากัน แม้ความจริงเรื่องแบบนี้จะไม่มีหลักฐานมัดตัวชัดเจนเพราะคงไม่มีใครเปิดเผยเรื่องลับ ๆ ง่าย ๆ ก็ตาม การฟ้องโดยอ้างหลักฐานที่ถามมาก็อาจจะฟ้องได้ แต่ฟ้องแล้วศาลจะตัดสินให้ชนะคดีหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องพิจารณาพยานหลักฐานจากทั้งสองฝ่ายด้วย 
          บันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์จากเจ้าของเครือข่ายนั้น มีเพียงหลักฐานแค่ว่าเบอร์นี้โทรเข้าหรือโทรออกไปหาอีกเบอร์หนึ่งกี่ครั้งเท่านั้น และอาจได้เพียงไม่เกินสามเดือนหลังจากมีการใช้โทรศัพท์ นานกว่านั้นไม่ได้ และที่สำคัญไม่มีการบันทึกการสนทนาเป็นเสียงไว้แต่อย่างใด 
         การฟ้องหย่าเรื่องนี้ควรติดตามและเก็บหลักฐานให้มากกว่านี้ เพราะจำเลยทุกคนมักปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำตามที่โจทก์ฟ้อง หากไม่มีพยานหลักฐานปิดปากก็ยาก โดยเฉพาะเรื่องครอบครัวซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และหากมีหลักฐานชัดเจนก็สามารถฟ้องร้องหรือร้องเรียนเรื่องวินัยของข้าราชการได้

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

สายทอง

สายทอง

ผู้เยี่ยมชม

3 ธ.ค. 2556 15:47 #47

สวัสดีค่ะ ทนายภูวรินร์
ดิฉันมีเรื่องขอความกรุณารบกวน ทนายภูวิรินทร์ค่ะ
ดิฉันแต่งงานกับสามีจดทะเบียนตามกฎหมายและได้ย้ายเข้าไปอยูที่บ้านสามีและอยู่กับพ่อแม่ของสามีต่อมาทะเลาะกันและเลิกกันดิฉันจึงย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านเดิมของดิฉันต่อมาดิฉันท้องจึงกลับไปคืนดีกับสามีและอยู่กินด้วยกันอีกครั้งแต่ก็ทะเลาะกันอีกจนตัดสินใจเลิกกันแต่ยังอาศัยอยู่บ้านเดียวกันซึ่งยังอยู่ด้วยกันกับพ่อแม่ของสามีและนอนห้องเดียวกันแต่แยกเตียงกัน ในระหว่างนี้แฟนของดิฉันได้เปิดร้านขายเครื่องสำอางให้ดิฉันค่ะ และแฟนของดิฉันไปมีผู้หญิงอื่นแต่ก็ยังกลับบ้านและดูแลลูกเป็นปกติแต่เราไม่เคยมีความสัมพันธ์กันเลยและเค้าก็คบกับผู้หญิงคนนั้นต่อมาจนกระทั่งเค้าทะเลาะกับพ่อสามีจึงออกไปอยู่นอกบ้านและดิฉันก็ยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่เค้าเรื่อยมาเป็นเวลาเกือบ 7 ปีแล้วและได้ช่วยกันเลี้ยงดูลูกมีพ่อแม่ญาตของสามีช่วยด้วยแต่เค้าก็อยู่นอกบ้านจนกระทั่งพ่อและแม่ของสามีดิฉันเสียลง(ซึ่งในระหว่างที่สามีของดิฉันไม่อยู่ที่บ้านแต่ก็ยังมีพี่น้องของสามีดิฉันอยู่ด้วยคอยดูแลพ่อและแม่ชองสามีดิฉันอยู่)สามีดิฉันจึงขอหย่ากับดิฉัน ดิฉันสามารถเรียกร้องสิทธิอะไรได้บ้างค่ะ และดิฉันมีสิทธิในทรัพย์สินมรดกของสามีที่ได้รับจากพ่อได้หรือไม่ค่ะ รบกวนอาจารย์ช่วยตอบดิฉันทางอีเมล์ด้วยนะค่ะ

สายทอง

สายทอง

ผู้เยี่ยมชม

สายทอง

สายทอง

ผู้เยี่ยมชม

3 ธ.ค. 2556 16:03 #48

ทนายภูวรินทร์
ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ
ดิฉันขอถามอีกนิดค่ะว่าดิฉันสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้หญิงคนนั้นได้มั้ยค่ะ
ทั้งนี้สามีดิฉันได้ขอหย่ากับดิฉันเมื่อ 2-3 ปีก่อนแล้วค่ะพ่อแม่ของสามีก็ทราบ และท่านก็อยากให้เคลียร์กันให้จบแต่ท่านทั้ง 2 จากไปก่อน ดิฉันมีสิทธิ์ในมรดกของพ่อแม่สามีมั้ยค่ะ
สามารถเรียกร้องสิทธิได้มั้ย หรือสามารถเรียกค่าชดเชยอะไรได้บ้าง จากสามีหรือจากผ้หญิงคนนั้น ดิฉันกับผู้หญิงคนนั้นเราไม่เคยคุยกันแต่พ่อ และแม่ของสามีดิฉันและญาติพี่น้องของสามีดิฉันรู้จักกับผู้หญิงคนนั้นทุกคนเข้าออกบ้านได้ปกติ(คือพ่อแม่และญาติพี่น้องสามีรับรู้ว่ามีผู้หญิงคนนี้แล้วและทุกคนก็เข้าใจแล้วว่าดิฉันกับสามีได้เลิกกันแล้วจริง)

สายทอง

สายทอง

ผู้เยี่ยมชม

ทนายภูวรินทร์  081-9250-144

ทนายภูวรินทร์ 081-9250-144

ผู้ดูแล

3 ธ.ค. 2556 16:53 #49


ตอบคำถามคุณสายทอง
         กรณีตามคำถาม แม้จะมีเรื่องทะเลาะกัน หรือเลิกกัน หรือแยกกันอยู่ หรือแยกห้องกันอยู่ แต่หากไม่ได้ไปจดทะเบียนหย่าต่อหน้านายทะเบียน ก็ยังถือว่าเป็นสามีภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมาย มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายเหมือนเดิมทุกประการ สามีก็มีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูภรรยาและบุตร หากสามีไปยกย่องหญิงอื่นฉันภรรยา คุณก็ยังมีสิทธิในการฟ้องหย่า และฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นค่าทดแทนจากตัวสามีเอง หรือตัวผู้หญิงคนอื่นได้ตามกฎหมาย (ตั้งตัวเลขค่าเสียหายเอง) หรือจะไม่ฟ้องสามี จะฟ้องแต่ผู้หญิงเพื่อเรียกค่าเสียหายก็ได้ เพราะหากคุณฟ้องหย่า สามีคงดีใจที่จะได้เป็นอิสระไปจดทะเบียนกับหญิงคนใหม่อย่างสบาย
         การฟ้องค่าทดแทนจากสามีนั้น อาจจะไม่ได้เงินค่าทดแทนมากมาย ศาลจะพิจารณาข้อเท็จจริงเป็นราย ๆ ไป เช่น แต่งงานกันมากี่ปี มีลูกด้วยกันกี่คน การหย่าจะทำให้คุณเดือดร้อนหรือยากจนลงหรือไม่ และเหตุฟ้องหย่าเกิดจากสามีฝ่ายเดียว แต่จะหวังอะไรมากไม่ได้ เพราะหากสามีไมมีทรัพย์สินหรือเงินให้ยึดก็คงได้แต่คำพิพากษามาเป็นที่ระลึกเท่านั้น กรณีของคุณไม่ควรฟ้องหย่า (ยกเว้นต้องการหย่าจริง) แต่ฟ้องเรียกให้สามีจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูในฐานะภรรยาและค่าเลี้ยงดูลูกเป็นรายเดือนจะดีกว่า โดยนำพยานหลักฐานทั้งหมดทั้งตัวสามีภรรยาและลูกไปปรึกษานิติกรศาลเพื่อให้ดำเนินกาฟ้องให้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและค่าฤชาธรรมเนียม (ตามกฎหมายใหม่)
         ส่วนเรื่องมรดกของพ่อแม่สามีนั้น คุณไม่มีสิทธิได้รับมรดกใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะคุณไม่ใช่ทายาทตามกฎหมายของพ่อสามี แต่หากสามีได้รับมรดกมาเป็นของสามีแล้ว และสามีเสียชีวิตไม่ว่าขณะนี้หรือในอนาคต คุณในฐานะภรรยาที่จดทะเบียนสมรส และลูกจะเป็นทายาทที่มีสิทธิรับมรดกของสามีตามกฎหมาย ซึ่งเป็นผลของการจดทะเบียนสมรส แต่หากคุณหย่ากันแล้วก็ไม่มีสิทธิได้รับมรดก ส่วนเมียน้อยไม่ใช่ภรรยาที่ชอบกฎหมายก็ไม่มีสิทธิรับมรดก ยกเว้นลูกที่เกิดจากเมียน้อย หากสามีคุณให้การรับรองโดยพฤตินัย ให้ใช้นามสกุล ให้การศึกษา ดูแลค่าใช้จ่าย หรือแสดงออกต่อคนทั่วไปว่าเป็นลูก ลูกที่เกิดจากเมียน้อยก็จะมีสิทธิรับมรดกของสามีคุณร่วมกับคุณและลูกของคุณคนละส่วนเท่า ๆ กัน
        ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ผลของการจดทะเบียนสมรสทำให้คุณมีสิทธิในการรับมรดกของสามีได้ตามกฎหมาย
       

ทนายภูวรินทร์  081-9250-144

ทนายภูวรินทร์ 081-9250-144

ผู้ดูแล

อิงอร

อิงอร

ผู้เยี่ยมชม

19 มี.ค. 2558 11:31 #50

สวัสดีคะ ทยายภูวรินทร์
ดิฉันมีเรื่องปรึกษาค่ะ คือมันอาจจะไม่ใช่คำถามที่จะนำมาถามในตอนนี้ เพราะเหตุเกิดมานานแล้ว
คือ ดิฉัน มีบุตร สค 51 จดทะเบียนหย่า พย 51 แต่ตอนนั้นไม่ทราบว่าสามีมีเมียน้อย
ปรากฎว่า หลังจากหย่า ถึงรู้ว่าสามี มีลูกใหม่อีก ซึ่งอ่อนกว่าลูกดิฉัน6 เดือน ซึ่งก็คือ มีชู้ ตั้งแต่ยังไม่ได้หย่ากับดิฉัน...ซึ่งภรรยาใหม่ มีลูกติดมา 1คน
สามีรับราชการ สิ่งที่อยากสอบถามคือ
1).ถ้าสามีเสียชีวิต บุตร จะได้มรดกทุกคนหรือไม่ รวมทั้งลูกติดภรรยาใหม่ ของสามีด้วยหรือเปล่า
และถ้า เค้าทำพินัยกรรม ให้ลูกกับภรรยาใหม่แล้ว ลูกดิฉันจะได้อะไรเลยใชไหมค่ะ
2)แล้วในปัจจุบัน หลังจากหย่าแล้ว ดิฉันจะไปขอค่าเลี้ยงดูบุตร จากอดีตสามีได้หรือไม่ คือไม่เคยให้ค่ะ
แต่มาแค้นใจตรงที่รู้ว่า ไปมีภรรยาใหม่ และลูกใหม่ ..แต่ทำอะไรไม่ได้แล้วเพราะดิฉันได้หย่าไปแล้ว
3)ถ้าเปลี่ยนนามสกุลของลูกดิฉัน ...ลูกจะไม่ได้สิทธิ์ อะไรจากพ่อเลยใช่ไหมค่ะ..กรณีพ่อเสียชีวิต หรือค่าเล่าเรียน ค่ารักษาพยาบาล ที่เบิกจากราชการ
รบกวนคุณทนาย ตอบทาง email ด้วยนะคะ...

อิงอร

อิงอร

ผู้เยี่ยมชม

ทนายภูวรินทร์  081-9250-144

ทนายภูวรินทร์ 081-9250-144

ผู้ดูแล

29 มี.ค. 2558 22:43 #51

ตอบคำถามคุณอิงอร
           1. ทายาทชั้นบุตรที่จะมีสิทธิรับมรดกของบิดานั้น กฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนคือ บุตรที่เกิดจากบิดามารดาสมรสกัน (ลูกคุณ) กฎหมายรับรองสิทธิให้มีสิทธิรับมรดกได้ ส่วนบุตรนอกกฎหมาย (ลูกเมียน้อยขณะนั้น) แต่บิดาให้การศึกษา ให้ใช้นามสกุล เป็นการรับรองโดยพฤตินัย กฎหมายก็ให้สิทธิในการรับมรดกเหมือนกัน โดยได้รับส่วนแบ่งเท่ากันอีกด้วย ดังนั้น ทั้งลูกของคุณและลูกที่เกิดจากภรรยาอีกคนก็มีสิทธิรับมรดกเท่าเทียมกัน
            2. คุณสามารถให้สามารถจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรได้จนกว่าบุตรจะมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ หากสามีไม่ให้ ก็สามารถฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวประจำจังหวัดที่มีภูมิลำเนาเพื่อให้ศาลสั่งบังคับได้ ส่วนจะได้เดือนละเท่าใด ก็ขึ้นอยู่กับการตั้งฐานเรียกร้องไปและระดับการศึกษาหรืออายุของบุตรด้วย
            3. การจะพิจารณาว่าเป็นลูกที่ชอบด้วยกฎหมายของบิดาหรือไม่ ให้ดูตอนที่เด็กเกิดว่าพ่อกับแม่จดทะเบียนสมรสกันหรือไม่ หากขณะเกิดพ่อกับแม่จดทะเบียนสมรสกัน ก็เป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายตลอดไป แม้ต่อมาพ่อกับแม่จะหย่ากันก็ตาม และแม้ต่อมาลูกจะเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของคุณหรือของบุคคลอื่นก็ตาม ลูกก็ยังเป็นลูกที่ชอบด้วยกฎหมายของบิดาที่จะต้องให้การอุปการะเลี้ยงดูจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ คือครบ 20 ปีบริบูรณ์ ดังนั้น ลูกคุณจึงไม่เสียสิทธิ์ใดๆ ยกเว้น บิดาทำพินัยกรรมกำจัดไม่ให้ลูกคุณรับมรดก หรือบิดาทำการโอนทรัพย์มรดกไปให้คนอื่นขณะมีชีวิตอยู่ ลูกคุณก็ไม่ได้รับมรดกอะไร 

ทนายภูวรินทร์  081-9250-144

ทนายภูวรินทร์ 081-9250-144

ผู้ดูแล

เพื่ออนาคตลูก

เพื่ออนาคตลูก

ผู้เยี่ยมชม

24 เม.ย 2559 04:03 #53

สวัสดีครับ คุณทนายภูวรินทร์
ผมมีบุตรชาย 2 คน 9 ขวบและ 4 ขวบ มีชายสูงวัยในที่ทำงานเดียวกันจะให้เงินอุปการะด้วยความรักเด็กทั้ง 2 จำนวนหนึ่งแก่บุตรของผม เพื่อเป็นหลักฐานว่าได้อุปการะจริง และป้องกันปัญหาการทวงคืนในภายหลัง ผมจึงอยากได้แบบฟอร์มการให้เงินอุปการะลูกชายทั้ง 2 จากท่านทนาย รบกวนท่านทนายส่งแบบฟอร์มตามความหมายข้างต้น หรือจะซักถามในรายละเอียดเพื่อประกอบการร่างฟอร์ม ส่งมาทาง email toon_artist@hotmail.com (ภายในวันที่ 25-29 เมษายน 2559) จักขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ

เพื่ออนาคตลูก

เพื่ออนาคตลูก

ผู้เยี่ยมชม

วิลาวัณย์ ไกรยบุตร

วิลาวัณย์ ไกรยบุตร

ผู้เยี่ยมชม

22 ส.ค. 2559 14:53 #54

เรียนคุณทนายภูวรินทร์
ดิฉันมีเรื่องปรึกษาหน่อยคะ
1.ดิฉันแต่งงานอยู่กินกับสามีเป็นเวลาเกือบ4ปีมีลูกด้วยกัน 1คน จนลูกอายุเกือบ 3ขวบเขามีผู้หญิงอื่นท้ิงลูก-เมียไปอยูกับผู้หญิงคนนั้นเลยและต่อมาเขายังมีลูกด้วยกันอีกถึง 2 คนโดยที่มีทะเบียนสมรสอยู่ นัดแล้วหลายครั้งโดยโทรศัพท์เพื่อให้มาหย่าให้ แต่ก็ไม่มาซึ่งตอนนี้รวมระยะเวลาได้ เกือบ 12 ปีแล้วและตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ควรจำทำอย่างไรดีคะ สามารถฟ้องหย่าเรียกร้องค่าเลี้ยงดูบุตรย้อนหลังได้มั้ย เพราะเคยคุยตกลงกันแต่ไม่มา ในเคสแบบนี้มีค่าใช้จ่ายในการฟ้องหย่าเท่าไหร่คะ...
ขอบคุณค่ะ

วิลาวัณย์ ไกรยบุตร

วิลาวัณย์ ไกรยบุตร

ผู้เยี่ยมชม

รัตติกาล

รัตติกาล

ผู้เยี่ยมชม

26 ธ.ค. 2559 13:47 #55

สวัสดีค่ะคุณทนาย ดิฉันอยู่กินกับสามีมาได้7ปี จดทะเบียนกันได้ 2 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ4ขวบครึ่ง ได้แยกกันอยู่มาสองปีแล้วค่ะ ด้วยเหตุผลที่่่่ไม่มีคนดูลูกเลยพาลูกกลับไปอยู่บ้านที่ ตจว กับยาย และส่งเงินมาให้ลูกเดือนละ500บาท นอกนั้นไม่ได้ส่งอะไรมาให้เลยค่ะ แล้วเพิ่งมาทราบว่าเขาแอบมีเมียน้อย และอยู่กินกันมาสองปีแล้ว อยู่ด้วยกันตั้งแต่ดิฉันย้ายไปอยู่ ตจว เลย ดิฉันจะฟ้องหย่าเขาได้มั้ยค่่่่่่่่่่่่ะ ดิฉันมีแต่รูปที่เขากับเมียน้อยถ่ายคู่กัน และคลิปวีดีโอที่่่่่่่ดิฉันไปเจอเขาอยู่กับเมียน้อยและเขาพาเมียน้อยเดินออกไปค่ะ หลักฐานเท่านี้พอจะฟ้องได้มั้ยคะ แล้วถ้าเขายอมมาหย่าาดีๆ ดิฉันต้องทำยังไงบ้างถึงจะให้เขาช่วยส่งค่าเลี้ยงดูบุตรด้วย ขอบคุณค่ะ
หรือจะตอบกลับทางอีเมลก็ได้นะคะ

รัตติกาล

รัตติกาล

ผู้เยี่ยมชม

ทนายภูวรินทร์  081-9250-144

ทนายภูวรินทร์ 081-9250-144

ผู้ดูแล

9 ม.ค. 2560 11:46 #56

ตอบคำถามคุณวิลาวัณย์ ไกรยบุตร
            กรณีตามคำถามคุณสามารถฟ้องหย่า เพิกถอนอำนาจปกครองบุตร และเรียกเงินค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรย้อนหลัง และต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ ไม่เกินอายุ 20 ปีบริบูรณ์ได้ครับ ส่วนค่าใช้จ่ายนั้น ไม่เสียค่าขึ้นศาล จะเสียเฉพาะค่าทนายความ ซึ่งต้องสอบถามกับทนายความที่ต้องการว่าจ้างจริง  และต้องทราบว่าจะฟ้องที่ศาลจังหวัดใดก่อน เพราะศาลที่จะยื่นฟ้องมีผลต่อการเรียกค่าทนายความด้วยครับ

ทนายภูวรินทร์  081-9250-144

ทนายภูวรินทร์ 081-9250-144

ผู้ดูแล

ทนายภูวรินทร์  081-9250-144

ทนายภูวรินทร์ 081-9250-144

ผู้ดูแล

9 ม.ค. 2560 11:50 #57

ตอบคำถามคุณรัตติกาล
           กรณีตามคำถามคุณสามารถฟ้องหย่า เพิกถอนอำนาจปกครองบุตร และเรียกเงินค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรย้อนหลัง และต่อไปในอนาคต จนกว่าลูกจะมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ได้เช่นเดียวกันครับ นอกจากนี้ ยังมีสิทธิฟ้องเรียกร้องให้สามีและหญิงอื่น ชดใช้ค่าเสียหายเป็นตัวเงินได้อีกด้วย ส่วนหลักฐานก็นำสืบพยานเอกสาร ภาพถ่าย และพยานบุคคลประกอบกัน
           ในส่วนค่าเลี้ยงดูบุตร หากศาลพิพากษาให้สามีจ่ายแล้วไม่จ่าย กฎหมายเปิดช่องให้ดำเนินการออกหมายเรียกมาตักเตือนและหากไม่ปฏิบัติ ศาลมีอำนาจออกหมายขังจนกว่าจะปฏิบัติอีกด้วยครับ ซึ่งมีสภาพบังคับสามีให้จ่ายได้ดีมากเลยทีเดียว

ทนายภูวรินทร์  081-9250-144

ทนายภูวรินทร์ 081-9250-144

ผู้ดูแล

แคทลียา

แคทลียา

ผู้เยี่ยมชม

19 พ.ค. 2560 08:36 #58

สวัสดีค่ะคุนทนาย เนื่องดิฉันกับสามี มีลูกชายด้วยกัน1คนแต่แยกกันอยู่เพราะทะเลาะกันแล้วดิฉันย้ายไปอยุ่กะเพื่อนชั่วคราวทางบ้านสามีไม่ให้เอาลุกไปด้วยเพราะกลัวลูกดิฉันลำบากทางบ้านสามีบอกว่าถ้ากับไปบ้านของดิฉันเขาจะให้เอาลูกกับไปได้.พอดิฉันย้ายออกมาอยู่กับเพื่อนทำงานไม่เท่าไหร่สามีของดิฉันเอาเมียน้อยมาอยู่บ้าน.เป็นเวลา 1เดือนกว่า.. ดิฉันขอหย่าแต่สามีไม่ยอมหย่าแล้วดิฉันได้ออกงานกับมาอยู่บ้านดิฉันก็จะเอาลูกกลับบ้านแต่สามีดิฉันไม่ยอมให้และก็ไม่ยอมหย่ากับดิฉัน... ดิฉันต้องทำยังไงถึงจะฟ้องหย่าแล้วเอาลูกมาอยู่กับดิฉันได้เพียงฝ่ายเดียวส่งเสียได้ปกติแต่ไม่ให้นำไปเลี้ยงดูเอง

แคทลียา

แคทลียา

ผู้เยี่ยมชม

ทนายภูวรินทร์  081-9250-144

ทนายภูวรินทร์ 081-9250-144

ผู้ดูแล

20 พ.ค. 2560 16:11 #59

ตอบคำถามคุณแคทลียา
       เมื่อสามีเป็นฝ่ายก่อเหตุหย่าด้วยการมีคนอื่น หรือเอาหญิงอื่นมาพักอาศัยอยู่บ้าน สิ่งที่คุณต้องทำคือการเก็บรวบรวบภาพถ่ายหรือพยานหลักฐาน เพื่อจะได้เป็นหลักฐานในการฟ้องหย่า ฟ้องเรียกค่าทดแทนจากสามี และหญิงอื่น พร้อมขอให้ศาลเพิกถอนอำนาจปกครองบุตร เพื่อเอาบุตรมาอยู่กับคุณได้ ซึ่งกรณีของคุณสามารถฟ้องเช่นนั้นได้ โดยสิ่งที่ต้องกระทำประการแรก คือ หาทนายความในพื้นที่เพื่อดำเนินการทางกฎหมายครับ เพราะในการตอบคำถามนี้ หากจะบอกโดยละเอียดคุณก็ไม่สามารถนำเอาไปดำเนินการด้วยตนเองได้ ต้องให้ทนายความดำเนินการแทนนะครับ

ทนายภูวรินทร์  081-9250-144

ทนายภูวรินทร์ 081-9250-144

ผู้ดูแล

ตอบกระทู้
CAPTCHA Image
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้