ทราย

ทราย

ผู้เยี่ยมชม

saibkk_2004@yahoo.com

  การฟ้องหย่ากับสามีชาวต่างชาติค่ะ (47941 อ่าน)

24 ส.ค. 2555 21:35

สวัสดีค่ะ..
ดิฉันมีเรื่องอยากปรึกษาเพื่่อจะทำเรื่องฟ้องหย่ากับสามีชาวต่างชาติ ที่ตอนนี้แยกกันอยู่เข้าปีที่5แล้วค่ะไม่มีการติดต่อใดๆเลย ดังนั้น..
ถ้าดิฉันจะทำเรื่องฟ้องหย่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ค่ะ.
แล้วยุ่งยากไหมค่ะเพราะดิฉันไม่มีข้อมูลใดๆของเขาเลย.
ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ค่ะ

ดิฉันหวังว่าจะได้รับข้อมูลนำเสนอและคำแนะนำดีๆจากเว็บของท่านเพื่อจะเตรียมตัวดำเนินเรื่องฟ้องหย่าสักทีค่ะ.
ดิฉันไม่หวังอะไรทั้งสิ้นขอแค่การสิ้นสุดความเป็น สามีภรรยาเท่านั้นค่ะ.

จักขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

118.175.64.96

ทราย

ทราย

ผู้เยี่ยมชม

saibkk_2004@yahoo.com

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

25 ส.ค. 2555 01:20 #1

ตอบคำถามคุณทราย
             การฟ้องหย่าสามารถอ้างเหตุสามีจงใจทิ้งร้างไปเกินหนึ่งปี และกระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยากันโดยไม่ส่งเสียอุปการะเลี้ยงดูฉันสามีภรรยาได้ แต่การฟ้องหย่าชาวต่างชาตินั้น ค่อนข้างยุ่งยากและใช้เวลานานพอสมควรครับ เพราะต้องมีการแปลสำเนาคำฟ้องและเอกสารที่เกี่ยวข้องส่งให้แก่จำเลย ณ ต่างประเทศด้วย ระยะเวลาจึงนานพอสมควรเพราะการส่งหมายจะช้า ประมาณการไว้น่าจะหกเดือนแต่ไม่เกินหนึ่งปีครับ 
             ผมนำข้อมูลการส่งหมายของศาลเยาวชนและครอบครัวกลางกรุงเทพมหานครมาให้ดูเป็นตัวอย่าง เกี่ยวกับเอกสารที่คู่ความต้องจัดทำสำหรับการส่งหมายไปต่างประเทศ ดังนี้
            1.สำเนาคำฟ้องหรือคำร้อง โดยต้องรับรองสำเนาถูกต้อง ลงลายมือชื่อพร้อมระบุฐานะของผู้รับรอง จำนวน 3 ชุด
           2.คำแปลหมายศาล และคำแปลคำฟ้องหรือคำร้อง

ทำเป็นภาษาอังกฤษ
ประเทศที่ต้องจัดทำคำแปลหมายศาล และคำแปลคำฟ้องเป็นภาษาราชการเพิ่ม ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน ใต้หวัน ฮ่องกง เกาหลีใต้ กัมพูชา เวียดนาม ประเทศในแถบละตินอเมริกาทั้งหมด ฯ
โดยรับรองการแปลด้วยข้อความว่า  “Certified True and Correct Translation”  ผู้รับรองการแปลต้องลงชื่อรับรองการแปล พร้อมระบุว่ารับรองในฐานะอะไร เช่น ในฐานะผู้แปล (Translator หรือ Interpreter)  ทนายความ (Lawyer หรือ Legal Repersentative) หรือคู่ความรับรองการแปลเองก็ได้ในฐานะโจทก์ (Plaintiff) หรือผู้ร้อง (Petitioner หรือ Claimant)
ข้อควรระวังเพื่อมิให้เอกสารถูกตีกลับ คำแปลต้องถูกต้องตามต้นฉบับและหลักสากล  โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันเดือนปี ชื่อบุคคล สถานที่มักพบข้อผิดพลาดบ่อยครั้ง และการรับรองการแปลต้องรับรองทุกหน้า จำนวน 4 ชุด ส่ง 3 ชุด เก็บเข้าสำนวน 1 ชุด

3.ค่าใช้จ่ายในการส่งเอกสารคำฟ้อง คู่ความต้องวางเงินให้กับศาลไว้ก่อนจำนวน 5,000  บาท  ค่าส่งหมายไปต่างประเทศทุกประเทศจะเรียกเก็บเมื่อดำเนินการแล้ว ยกเว้นประเทศสหรัฐอเมริกา ที่คู่ความต้องซื้อดร๊าฟต์ หรือเช็ค เป็นค่าส่งเอกสารจำนวน 95 เหรียญสหรัฐ สั่งจ่าย................... มายื่นที่ศาลเพื่อส่งไปพร้อมกับการส่งหมาย
              อันนี้เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการส่งหมายศาลครับ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มขึ้นตามประเทศที่ต้องส่งหมายไป แต่หากสืบทราบว่าสามีมีที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ก็อาจส่งหมายไปยังสถานที่นั้นได้ จะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้ครับ สำหรับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าจ้างทนายความนั้น ต้องสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก่อนว่า มูลคดีที่อ้างเป็นเหตุฟ้องอยู่ที่จังหวัดอะไร เพราะการฟ้องคดีต้องฟ้องยังศาลจังหวัดที่มูลคดีเกิดขึ้น ซึ่งได้แก่ จังหวัดที่เคยใช้ชีวิตร่วมกันก่อนแยกทางกัน หรืออ้างเป็นเหตุฟ้องหย่า (ไม่ใช่สถานที่จดทะเบียนสมรส แต่หากจดทะเบียนสมรสและใช้ชีวิตร่วมกันในจังหวัดเดียวกันก็ฟ้องศาลนั้นได้) และศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาล นอกจากนี้  คุณทรายมีบุตรด้วยกันหรือไม่ครับ คุณทรายส่งคำตอบหรือรายละเอียดมาให้ผมทางอีเมลล์ในเวบนี้แลว้จะส่งคำตอบไปทางเมลล์ครับ หากมีข้อสงสัยก็สอบถามเพิ่มเติมได้ครับ
 
 
 
 
 

 

171.7.225.55

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

ทราย

ทราย

ผู้เยี่ยมชม

saibkk_2004@yahoo.com

26 ส.ค. 2555 00:53 #2

ขอขอบพระคุณอย่างสูงที่กรุณาให้คำแนะนำและข้อมูล ดิฉันดีใจมากค่ะที่ได้รู้จักเว็บนี้.
ดิฉันจะทยอยส่งคำถามไปทางอีเมล์ของคุณทนายแน่นอนค่ะเพียงแต่ขอรวบรวมคำถามและข้อสงสัยก่อนค่ะ.

หากข้อสงสัยของดิฉันรบกวนคุณทนายดิฉันก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วยค่ะ.

ขอขอบพระคุณอย่างสูงสำหรับการตอบกลับค่ะ.

118.175.64.96

ทราย

ทราย

ผู้เยี่ยมชม

saibkk_2004@yahoo.com

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

27 ส.ค. 2555 16:29 #3

ยินดีให้คำปรึกษาครับ

27.130.83.204

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

phen

phen

ผู้เยี่ยมชม

roiyky@hotmail.com

17 ธ.ค. 2555 09:30 #4

เรียนคุณทนายภูวรินทร์
ดิฉันได้จดทะเบียนสมรสกับสามีชาวเดนมาร์คแต่ตอนนี้เราแยกทางกันอยู่ตั่งแต่ปี 2552-2555เพราะสามีมีผู้หญิงใหม่ดิฉันมีลูกด้วยกัน1คนแต่สามีไม่เคยติดต่อกับดิฉันเลยดิฉันต้องการหย่าไม่ทราบค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไรค่ะ ตอนนี้ลำบากมากเพราะต้องเลียงดูบุตรคนเดียว
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะสำหรับคำแนะนำ
เพ็ญ ถ้าคุณทนายไม่ลำบากช่วยตอบจดหมายเป็นการส่วนตัว

115.67.164.223

phen

phen

ผู้เยี่ยมชม

roiyky@hotmail.com

วารินทิพย์

วารินทิพย์

ผู้เยี่ยมชม

nsansinngam@hotmail.com

17 ธ.ค. 2555 15:44 #5

เรียนคุณทนายภูวรินทร์

ดิชั้นได้จดทะเบียนสมรสกับสามีชาวอิตาเลี่ยนในไทย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2554 เมื่อจดทะเบียนภายใต้กฏหมายไทยแล้ว ก็ส่งเอกสารผ่านทางสถานฑูตอิตาลี่ไปยังอำเภอของสามีในประเทศอิตาลี่เพื่อลงบันทึกฐานข้อมูลว่าได้ทำการจดทะเบียนสมรสแล้ว แต่หลังจากจดได้ 1 เดือนสถานฑูตอิตาลี่ได้ติดต่อกลับมาว่ามีปัญหา เนื่องจากฝ่ายชายยังไม่ได้หย่ากับภรรยาเก่า ดิชั้นจึงได้สอบถามไปยังสำนักงานเขตว่าจะสามารถยกเลิกทะเบียนสมรสที่จดไปได้ไม๊ ทางสำนักงานเขตตอบว่าจริงๆ แล้วทะเบียนสมรสเป็นโมฆะตั้งแต่วันที่เซนต์เอกสารจดทะเบียนแล้ว เนื่องจากฝ่ายชายไม่มีคุณสมบัติที่จะจดทะเบียนสมรสกับเราได้ แต่ทางสำนักงานเขตไม่สามารถยกเลิกให้ได้ จะสามารถยกเลิกให้ได้ถ้ามีอำนาจศาลสั่งให้ยกเลิก ดิชั้นอยากสอบถามว่าในกรณีของดิชั้นถ้าต้องการขออำนาจศาลเพื่อยกเลิกทะเบียนสมรส สามารถกระทำได้เลยหรือไม่ และต้องใช้เวลานานดำเนินการนานแค่ไหน ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ รบกวนช่วยตอบดิชั้นด้วยนะคะ ตอนนี้ดิชั้นทุกข์ใจมากอยากหย่า เพราะตอนนี้สามีมีผู้หญิงอื่น ไม่สนใจดิชั้นและลูกเลย หรือดิชั้นจะฟ้องหย่าเพราะว่าสามียกย่องผู้หญิงอื่นฉันท์ภรรยาดีคะ ตอนนี้ดิชั้นอยู่ที่ไทย แต่สามีทำงานอยู่ที่ฮ่องกงค่ะ รบกวนคุณทนายช่วยตอบดิชั้นเป็นการส่วนตัวด้วยนะคะ

124.122.103.226

วารินทิพย์

วารินทิพย์

ผู้เยี่ยมชม

nsansinngam@hotmail.com

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

17 ธ.ค. 2555 21:32 #6


ทนายภูวรินทร์ ได้ตอบคำถามคุณ Phen  ทางอีเมลล์เรียบร้อยแล้ว

14.207.23.181

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

17 ธ.ค. 2555 22:18 #7


ทนายภูวรินทร์ ได้ตอบคำถามคุณวารินทิพย์ ทางอีเมลล์เรียบร้อยแล้ว

14.207.23.181

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

เพื่อลูก

เพื่อลูก

ผู้เยี่ยมชม

r_netikul@hotmail.com

15 ม.ค. 2556 17:17 #8

เรียนคุณทนายภูวรินทร์
แต่งงานและจดทะเบียนกับสามีชาวไนจีเรียในไทย
ตอนนี้มีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 5 เดือน ต้องการหย่าและ
ต้องการที่จะเป็นผู้ดูแลลูกเอง (ให้ลูกอยู่กับดิฉัน)
โดยไม่ต้องการค่าเลี้ยงดูลูก หรือ ใด ๆ ทั้งสิ้น
ดิฉันต้องทำอย่างไร ถ้าดิฉันฟ้องร้องเพื่อขอเลี้ยงดูบุตร
จะมีโอกาสชนะไหมค่ะ คือกังวลเกี่ยวกับกฎหมายทางประเทศสามีค่ะว่าเค้าจะมีอำนาจจนสามารถบังคับดิฉัน
และทำให้ต้องมอบลูกให้กับฝ่ายสามีไป ขอบคุณค่ะ
(รบกวนช่วยตอบเป็นการส่วนตัวทาง E-mail ให้ด้วยนะค่ะ)

58.10.189.34

เพื่อลูก

เพื่อลูก

ผู้เยี่ยมชม

r_netikul@hotmail.com

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

18 ม.ค. 2556 20:26 #9


ทนายภูวรินทร์ ได้ตอบคำถามคุณเพื่อลูก ทางอีเมลล์เรียบร้อยแล้ว

171.7.141.39

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

เกร็ดดาว

เกร็ดดาว

ผู้เยี่ยมชม

Mammo_dj@hotmail.com

24 ม.ค. 2556 21:50 #10

สวัสดีค่ะ
ดิฉันแต่งงานกับชายญี่ปุ่นเมื่อประมาณ20ปีที่แล้ว จดทะเบียนสมรสทั้งที่เมืองไทยและที่ญี่ปุ่น ขณะนี้แยกกันอยู่12ปีแล้ว
โดยที่ไม่มีการติดต่อทั้งสิ้น และดิฉันก็ไม่ทราบว่าขณะนี้เขาอยู่ที่ใด เมื่อ4ปีที่แล้วดิฉันต้องการหย่ากับสามีจึงพยายามติดต่อ
ไปทางญาติพี่น้องของสามี จึงได้ทราบว่าสามีก็ขาดการติดต่อกับญาติพี่น้องมา8ปีแล้ว และทางพี่สาวเขาได้แจ้งกับทางสถานี
ตำรวจว่าสามีของดิฉันเป็นความบุคคลหายสาปสูญ ในกรณีนี้ดิฉันสามารถใช้ใบบุคคลหายสาปสูญเพื่อฟ้องหย่าได้หรือไม่
ขณะนี้ดิฉันไม่ได้อยู่ทั้งที่ประเทศไทยและญี่ปุ่น ดิฉันจะสามารถดำเนินการหย่าได้อย่างไรค่ะ และปรกติแล้วค่าธรรมเนียม
ที่ทนายความจะคิดค่าดำเนินเรื่องฟ้องหย่าอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ค่ะ ขอความกรุณาแนะนำด้วยค่ะ กรุณาตอบทางอีเมล์ได้มั้ยค่ะ

ขอบพราะคุณอย่างสูงค่ะ

46.11.54.208

เกร็ดดาว

เกร็ดดาว

ผู้เยี่ยมชม

Mammo_dj@hotmail.com

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

26 ม.ค. 2556 21:06 #11


ทนายภูวรินทร์ ได้ตอบคำถามคุณเกร็ดดาว ทางอีเมลล์เรียบร้อยแล้ว

14.207.16.235

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

Daseera

Daseera

ผู้เยี่ยมชม

daseera24@gmail.com

20 ก.พ. 2556 12:41 #12

ต้องการฟ้องหย่ากับสามีต่างชาติ จดทะเบียนในประเทศไทย ..เค้าอยู่เมืองไทย ไม่ทำงาน เอาเงินที่ติดตัวมาซื้อ บ้าน คอนโด รถ อยู่ไปก็ขายกิีนหมด โดยทุกครั้งก็จะนำไปใช้คนเดียวหมด.. ตอนไม่มีก็ให้ภรรยาเลี้ยง แถมยังสร้างหนี้สินในการต้องไปกู้เิงิน ให้ต่อวีซ่า จำนวนห้าแสน แล้วก็ไม่คืน..จากนั้น ทำให้ภรรยาต้องเป็นหนี้ เพราะเงินเดือนโดนหักหมด ต้องใช้บัตรเครดิต ตอนนี้โดนฟ้อง ไปสามสถาบัน เค้าได้เงินจากการขายคอนโด ก็ไม่ได้ช่วยเหลือ ตอนนี้ แยกกันอยู่ 1 ปี กว่าๆ เพราะัรับสภาพไม่ไหว.. ต้องออกไปเช่าบ้านอยู่ พร้อมกับรับภาระหนี้คนเดียว กรณีแบบนี้ เป็นเหตุให้ฟ้องหย่า ได้หรือไม่คะ บ้านที่ซื้อหลังจากจดทะเบียนสมรส ปี 48 เป็นสมบัติชิ้นสุดท้าย

เค้าก็บอกว่า เราเป็น นอร์มินี่.. ซึ่งจะใช้กฏหมายนี้เล่นงานเรา.. ทั้งที่มันน่าจะเป็นสินสมรส..ข้าวของในบ้านที่เป็นเงินเรา เช่น แอร์ ก็ไม่ยอมให้เราถอดออกไป..

ตอนนี้เดือดร้อนมาก กับภาระหนี้สิน ต้องการหย่ามากๆ มีทางใดที่จะเป็นเหตุในการหย่าได้บ้างคะ

เคยได้หลักฐานการติดต่อกับผู้หญิง ที่พัทยา ในการนัดแนะ และการจองโรงแรม .. ในครั้งนี้ จากการได้เห็นหลักฐานอีเมล์ ก็เลยตัดสินใจย้ายของออกจากบ้าน .. เป็นเวลา ปีกว่าๆ แล้ว

ตอนนี้เค้าอ้างว่า เลิกกับผู้หญิง เรียบร้อย.. แต่ ทางเรา ไม่ต้องการรับสภาพ กับการต้องเลี้ยงเค้าไปตลอดชีวิต ตอนมีเงินก็จะไปใช้คนเดียว แต่เงินหมด ก็มาเกาะกิน .. จนปัจจุบัน ลูกสาว (ลูกติดทางภรรยา) ต้องหยุดเรียน เพราะแม่ไม่มีเงินส่งเรียน มีค่าใช้จ่าย ค่าห้อง ค่ากิน จ่ายธนาคา สามธนาคาร.. และ กำลังจะตามฟ้องอีก 2 ธนาคาร ด้วยเงินเดือนที่เหลือ สองพันกว่าบาท.. ที่อยู่ได้ปัจจุบัน เพราะวิ่งหาิเงิน กับรายจ่าย เดือนละเกือบๆสองหมื่นคนเดียว ซึ่งปัจจุบัน กำลังจะเจอทางตันอีกแล้ว

เหตุที่เล่ามาทั้งหมด สามารถ ฟ้องหย่า ได้หรือไม่คะ... เรื่องบ้าน เค้ากำลังพยายามขาย และ ไม่ยอมให้มีการแบ่งครึ่ง เค้าต้องการทั้งหมด..

มีอีเมล์ข่มขู่ จากเค้าตลอด.. .. และไม่ยอมให้เราใช้ทนายคุยกับเค้า

ถ้าเราใช้ เค้าจะใช้ทนาย และยกเรื่อง นอร์มินี่ มาข่มขู่ ตลอด

จดทะเบียนปี 48 แยกกันอยู่ ตั้งแต่ 10 ธค.54 ค่ะ

รบกวนคุณทนาย ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

Daseera


203.113.0.206

Daseera

Daseera

ผู้เยี่ยมชม

daseera24@gmail.com

sushi

sushi

ผู้เยี่ยมชม

sushinori-2009@hotmial.com

21 ก.พ. 2556 02:33 #13

สวัสดีค่ะ
ปัญหาก็คล้ายๆ กันค่ะ กับ คห 1
จดทะเบียนที่เมืองไทยค่ะแล้วแฟนต่างชาติ เอ๊ย ต่างด่าว
ก็ได้หายไปกับเครื่องบินที่เค้ามาอะค่ะ
นับไปนับมาก็ ปีกับอีก3 เดือนที่ติดต่อเค้าไม่ได้ค่ะ
ต้องติดต่อ คุณทนายยังไงค่ะ
รบกวนช่วยเมล์มาได้ใหมค่ะ
เคยทำแล้วครั้งหนึ่งค่ะ
แต่คุณทนายคนเก่า กะลังจะลงเลือกตั้ง เพื่อบ้านเมือง
ไม่มีเวลา ก้เลยต้องไปเค้าไปค่ะ
ขอความเสียสละ คุณทนาย ช่วยตอบหน่อยน่ะค่ะ
เดือดร้อน ก็ พออยู่อะค่ะ
แต่อยากกลับมาใช้นามสกุล เก่า มากกว่าค่ะ
อายเค้าค่ะ เป็นนางเสียแล้ว
รบกวนเวลาอันน้อยนิดแล้วช่วยตอบด้วยน่ะค่ะ คุณทนาย
ไม่รีบค่ะ เพราะได้อ่านของแต่ละคน แล้ว ดูท่าทางกลุ้มมากกว่า
ว่างเมื่อไหร่ช่วยตอบด้วยน่ะค่ะ
ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ
Sushinori-2009@hotmail.com

171.7.96.44

sushi

sushi

ผู้เยี่ยมชม

sushinori-2009@hotmial.com

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

23 ก.พ. 2556 00:49 #14


ตอบคำถามคุณ Daseera
        การฟ้องหย่าจะต้องอ้างเหตุตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น เหตุอื่นนอกจากกฎหมายบัญญัติไว้ ไม่สามารถอ้างฟ้องหย่าได้ ซึ่งเหตุที่จะอ้างฟ้องหย่านั้น ได้แก่
        (1) สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามีเป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

        (2) สามีหรือภริยาประพฤติชั่ว ไม่ว่าความประพฤติชั่วนั้นจะเป็นความผิดอาญาหรือไม่ถ้าเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่ง

        (ก)ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง

        (ข) ได้รับความดูถูกเกลียดชังเพราะเหตุที่คงเป็นสามีหรือภริยาของฝ่ายที่ประพฤติชั่วอยู่ต่อไป หรือ

        (ค) ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร ในเมื่อเอาสภาพฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ

        อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้

        (3) สามีหรือภริยาทำร้ายหรือทรมานร่างกายหรือจิตใจ หรือหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ถ้าเป็นการร้ายแรง อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้

        (4) สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปี อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้

        (4/1) สามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และได้ถูกจำคุกเกินหนึ่งปีในความผิดที่อีกฝ่ายหนึ่งมิได้มีส่วนก่อให้เกิดการกระทำความผิดหรือยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้นด้วย และการเป็นสามีภริยากันต่อไปจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกิน ควรอีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้

        (4/2) สามีและภริยาสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปี หรือแยกกันอยู่ตามคำสั่งของศาลเป็นเวลาเกินสามปี ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

        (5) สามีหรือภริยาถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ หรือไปจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นเวลาเกินสามปี โดยไม่มีใครทราบแน่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่าง ไรอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

        (6) สามีหรือภริยาไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตาม สมควร หรือทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ถ้าการกระทำนั้นถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอา สภาพฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้

        (7) สามีหรือภริยาวิกลจริตตลอดมาเกินสามปี และความวิกลจริตนั้นมี ลักษณะยากจะหายได้กับทั้งความวิกลจริตถึงขนาดที่จะทนอยู่ร่วมกัน ฉันสามีภริยาต่อไปไม่ได้อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

        (8) สามีหรือภริยาผิดทัณฑ์บนที่ทำให้ไว้เป็นหนังสือในเรื่องความประพฤติอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

        (9) สามีหรือภริยาเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงอันอาจเป็นภัยแก่อีกฝ่ายหนึ่งและโรคมีลักษณะเรื้อรัง ไม่มีทางที่จะหายได้อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้

        (10) สามีหรือภริยามีสภาพแห่งกายทำให้สามีหรือภริยานั้น ไม่อาจร่วมประเวณีได้ตลอดกาล อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
       กรณีตามคำถามนั้น ยังไม่สามารถอ้างเป็นเหตุฟ้องหย่าได้เพราะตามกฎหมายสามีภรรยาต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูซึ่งกันและกัน คดีครอบครัวละเอียดอ่อนมาก การจะฟ้องหย่าได้ต้องมีข้อเท็จจริงตามเหตุฟ้องหย่าชัดเจน มีพยานหลักฐานนำสืบสนับสนุนตามข้ออ้างด้วย ส่วนการแยกกันอยู่นั้นกฎหมายบัญญัติไว้ชัดเจนว่าจะต้องแยกกันอยู่ด้วยความสมัครใจทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่เกิดจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงฝ่ายเดียว และการแยกกันอยู่ต้องเป็นเพราะไม่สามารถอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยาโดยปกติสุขเป็นเวลาเกินสามปีด้วย จึงจะอ้างฟ้องหย่าได้
       ส่วนในเรื่องซื้อบ้านในนามคุณเองนั้น แม้เงินจะเป็นของสามีก็ไม่ถือว่าคุณเป็นนอมินี เพราะเป็นการซื้อเพื่อใช้อยู่อาศัยระหว่างสามีภรรยาจริง ๆ ไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้ครับ เพราะหากจะผิดกฎหมายก็ผิดด้วยกันทั้งสามีภรรยานั่นแหละเป็นตัวการร่วมกันทำผิดกฎหมายด้วยกันทั้งคู่ หากคุณถูกดำเนินคดี สามีก็ต้องโดนด้วย อย่ากลัวคำขู่ครับ
       แม้ข้อเท็จจริงคุณจะอ้างฟ้องหย่าตามกฎหมายไม่ได้ แต่ก็สามารถเสนอคำฟ้องเพื่อขอให้ศาลช่วยไกล่เกลี่ยกันได้ เนื่องจากการฟ้องคดีไม่จำเป็นต้องสืบพยานสู้กันอย่างเดียว ก่อนจะถึงขั้นนั้นจะมีขั้นตอนการเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อให้อยู่ร่วมกันโดยปกติสุขต่อไป หรือแยกทางกันด้วยดีครับ
 

14.207.86.178

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

23 ก.พ. 2556 01:00 #15


ทนายภูวรินทร์ ได้ตอบคำถามคุณsushi ทางอีเมลล์เรียบร้อยแล้ว

14.207.86.178

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

23 ก.พ. 2556 02:48 #16


ทนายภูวรินทร์ ขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า คุณยายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 ที่ผ่านมานี้ จะฌาปนกิจวันที่ 27 ช่วงนี้อาจตอบคำถามล่าช้าบ้าง หากเร่งด่วนก็โทรศัพท์มาสอบถามได้ครับ

14.207.86.178

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

ฉาย

ฉาย

ผู้เยี่ยมชม

mango-minggi@hotmail.com

27 ก.พ. 2556 15:00 #17

สวัสดีคะ ดิฉันมีเรื่องอยากถาม ดิฉันแต่งงานกับคนญี่ปุ่นเกือบ5ปีแล้วก่อนแต่งเราตกลงกันว่าจะซื้อบ้านมีลูกอยู่ภายในเมืองไทย แต่พอแต่งงานแล้วทุกอย่างเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยคะ ฉันต้องคอยทำตามคำสั่งของเค้าทุกอย่าง เสนอหรืออกความคิดเห็นไดๆไปยากมากที่จะเห็นด้วยกับดิฉัน และในทุกๆวัน การใช่ชิวิต เราเข้ากันไม่ได้เลย อึดอัดมาก เค้าก็รู้สึกเช่นเดียวกับฉัน จนฉันเห็นจดหมายฉบับนึงซึ่งสามีดิฉันเขียนแปลเป็นภาษาไทย ความหมายโดยรวมคือเราเข้ากันไม่ได้ และขอดิฉันหย่า ดิฉันอยากทราบว่าถ้าสามีดิฉันมีจดหมายขอหย่าแล้ว ดิฉันมีสิทธิเรียกร้องค่าเลี้ยงดูได้ไหมคะ

115.87.92.231

ฉาย

ฉาย

ผู้เยี่ยมชม

mango-minggi@hotmail.com

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

1 มี.ค. 2556 22:18 #18


ตอบคำถามคุณฉาย
             ตามกฎหมายไทย เมื่อจดทะเบียนสมรสแล้วกฎหมายกำหนดให้สามีภรรยามีหน้าที่ต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูซึ่งกันและกัน ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยเฉพาะ ดังนั้น หน้าที่อุปการะเลี้ยงดูจึงเป็นสิทธิที่เกิดขึ้นเพราะการจดทะเบียนสมรสกัน หากตกลงหย่ากันและไปจดทะเบียนหย่าแล้วก็หมดสิทธิที่จะได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากอีกฝ่ายหนึ่ง แต่ก่อนที่จะไปจดทะเบียนหย่า หากคุณบอกข้อเสนอไปว่าเมื่อได้รับเงินจำนวนที่คุณต้องการแล้วก็จะหย่าให้ และสามียินยอมจ่ายก็โชคดีไป เรียกว่าค่าเซ็นต์ใบหย่า ไม่ใช่ค่าเลี้ยงดูครับ แต่หากสามีไม่ยอมจ่าย ก็ไม่หย่า ต่างคนต่างอยู่กันไป หากทั้งสองฝ่ายต้องการหย่าก็ต้องไปฟ้องศาลเองซึ่งก็จะต้องมีเหตุฟ้องหย่าตามที่กฎหมายกำหนดไว้ด้วย ไม่ใช่อ้างเหตุเพราะเข้ากันไม่ได้ เพราะกรณีนี้หากฟ้องไปศาลก็ยกฟ้องและเสียเวลาเสียค่าใช้จ่าย สู้ตกลงหย่ากันหรือจบกันด้วยดีน่าจะเป็นการดีกว่านะครับ
 

171.6.152.117

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

อมรา

อมรา

ผู้เยี่ยมชม

evergreen_473@hotmail.com

24 มี.ค. 2556 07:39 #19

สวัสดีค่ะ ดิฉันจดทะเบียนสมรสกับชาวโปแลนด์ที่ประเทศไทย แต่ไม่ได้ทำเรื่องส่งไปที่สถานทูตของเขาค่ะ จากนั้นเขาก็หายไปเกือบสองปีแล้ว ตืดต่อไม่ได้เลย แล้วดิฉันไม่มีข้อมูลอะไรของเขาเลย ไม่ทราบว่าในกรณีนี้ ดิฉันต้องส่งสำเนาฟ้องหย่าไปประเทศเขาไหมคะ ดิฉันอยากเป็นอิสระมาก ไม่อยากให้เรื่องยุ่งยากไปมากกว่านี้

171.98.65.236

อมรา

อมรา

ผู้เยี่ยมชม

evergreen_473@hotmail.com

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

24 มี.ค. 2556 14:20 #20


ตอบคำถามคุณอมรา
            กรณีนี้ต้องฟ้องหย่าโดยอ้างเหตุจงใจทิ้งร้างเกินหนึ่งปี โดยฟ้องต่อศาลที่ข้ออ้างฟ้องหย่าเกิดขึ้นในเขตศาล และตามกฎหมายต้องระบุภูมิลำเนาของจำเลย และจะต้องแปลคำฟ้องเป็นภาษาต่างประเทศแล้วส่งคำฟ้องไปให้จำเลยที่ต่างประเทศด้วย แม้จะไม่ได้จดทะเบียนสมรสที่ประเทศโปแลนด์ หรือทำเรื่องที่สถานทูตของสามีก็ตาม การฟ้องหย่าชาวต่างชาติจึงใช้เวลานานเพราะต้องรอผลการส่งหมายศาลก่อนการสืบพยานและเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นด้วยครับ

14.207.27.43

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

phuwarinlawyer@gmail.com

ตอบกระทู้
CAPTCHA Image
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้